พลอยน้ำบุษร์ หรือ บุษราคัม (Yellow Sapphires) เป็นชนิดที่มีสีเหลืองจะอ่อนแก่อย่างใดนั้นแล้วแต่ธรรมชาติที่พบ แต่เดิมที่เรียกกันว่า บุษราคัมนั้นเข้าใจกันว่า เป็นพลอย หรือแร่โทแพซสีเหลือง ซึ่งมิใช่คอรันดัม ที่มีเนื้อส่วนประกอบ เป็นคนละชนิด แม้จะทราบกันต่อมาในภายหลังแล้วว่า พลอยสีเหลืองที่พบทางจันทบุรีนั้น เป็นแร่คอรันดัม ก็ยังคงเรียก บุษราคัมกันเช่นเดิม พลอยน้ำบุษร์ที่นิยมกันมากที่สุด และราคาแพงนั้น มีสีที่อาจเปรียบได้กับสีน้ำชาแก่ ๆ สีขมิ้นเน่า หรือสีดอกจำปา หรือสีเหลืองน้ำเหล้าแม่โขง พลอยน้ำบุษร์ ถ้ามีสีเขียวปนอยู่ภายในเนื้อเรียก บุษร์น้ำแตง ส่วนชนิดที่สีออก เหลืองทองเรียก บุษร์น้ำทอง มีราคาแพงมาก เช่นกัน ในท้องตลาดมักจะมีการปลอมขายควอรตซ์สีเหลืองหรือ ซิตริน (Citrine) เป็นบุษราคัมบ่อย ๆ จึงควรระวังไว้บ้าง
สมัยก่อนพลอยน้ำบุษร์จากจันทบุรี ที่มีชื่อเสียงพบมากในบริเวณ เขาพลอยแหวน เขาวัว และบางกะจะ ปัจจุบันชนิดไฟดี สีสวย หาได้ยากมาก ปริมาณพลอยก็ลดน้อยลงแทบจะไม่พบเลย โดยเหตุที่ ขุดหากันมานานแล้ว
พลอยน้ำบุษร์ เป็นพลอยที่นิยมกันมากชนิดหนึ่งในหมู่นักเล่นเพชรพลอย ด้วยเหตุที่ปริมาณพลอยของจังหวัดลดน้อยลง จึงมีการนำพลอยดิบ จากต่างประเทศเข้ามาหุงและเจียระไนขาย
พลอยเหลืองส่วนหนึ่งปรากฎในตลาดพลอยไทย นั้นเป็นพลอย แซปไฟร์ศรีลังกา นำมาหุงให้เกิดสีเหลือง ซึ่งมีสีเหลืองอมน้ำตาล ไปจนกระทั่งอมส้ม (Brownish to orangy yellow) ในต่างประเทศเรียก พลอยแซปไฟร์หุงสีเหลืองทอง (Heat-treated golden sapphires) การหุงพลอยชนิดนี้ เล่ากันว่าหุงกันมากกว่า 10 ปีแล้ว สีเหลืองที่เกิดจากการหุง เชื่อกันว่าคงทนถาวร ซึ่งแตกต่างจากพลอยเหลืองที่หุงโดยอาบรังสี (Irradiation) สีจะจางซีดในระยะเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้น ท่านที่ต้องการซื้อพลอยบุษราคัมหรือแซปไฟร์เหลืองแท้ของจันทบุรี จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หรือมิฉะนั้น จำเป็นที่จะต้องให้ ผู้ที่ชำนาญคุ้นเคยกับพลอยจันทบุรีช่วยดูให้ ก่อนนี้พลอยเหลือง จันทบุรีมีราคาแพงมาก แต่เนื่องด้วยในระยะหลัง มีการนำพลอยดิบ จากศรีลังกา มาหุงมากขึ้น เข้ามาตีตลาดพลอย จึงทำให้พลอย จันทบุรีราคาตกลงไปบ้าง อย่างไรก็ตาม โดยเปรียบเทียบ พลอยหุงสีเหลืองจากศรีลักา ก็ยังมีราคาต่ำกว่า พลอยน้ำบุษร์ ของไทยเราเพราะความนิยม ของพลอยจันท์มีมากกว่า และประกายไฟโดยเฉลี่ยจะดีกว่า
แสดงทั้งหมด 9 ผลลัพท์